การจะกลายเป็นนักเทนนิสที่เก่งและประสบความสำเร็จในวงการปัจจุบัน เหล่านักเทนนิสทั้งหลายที่โด่งดังในตอนนี้ส่วนใหญ่ถูกปูพิ้นฐานจากการเข้าคอร์สเรียนในอะคาเดมี่เทนนิสที่ใดที่หนึ่งบนโลก สถาบันเทนนิสเหล่านี้เองที่ได้สร้างนักกีฬาชั้นนำออกมาแข่งขันกัน พร้อมกันนั้นในทุกครั้งที่อดีตนักเรียนของพวกเขากลายเป็นนักเทนนิสมีชื่อ สถาบันก็ถูกยกย่องตามไปด้วย

ในบรรดาสถาบันหรืออะคาเดมี่เทนนิสทั้งหลายบนโลก IMG Bollettieri Tennis Academy น่าจะเป็นเบอร์ท็อปที่สุด เพราะมันเป็นแหล่งสร้างนักกีฬาชั้นนำรวมไปถึงมืออันดับท็อปของโลกมากมาย

นิค บอลเลตเตียรี่ โค้ชเทนนิสได้สานฝันของเขาด้วยการเปิดโรงเรียนสอนเทนนิสในปี 1978 ที่ฟลอริด้า หลังจากคิดค้นจนได้สิ่งที่เรียกว่าบอลเลตเตียรี่โปรแกรมซึ่งรวมทั้งเรื่องของเทคนิคสร้างนักกีฬาและการเรียนที่เข้มข้นเข้าด้วยกัน มันกลายเป็นแนวทางในการผลิตนักกีฬาเทนนิสที่มีบุคลิกยิ่งใหญ่หลาย ๆ คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือชายชื่อ อังเดร อากัสซี่ นิคก่อตั้งโรงเรียนในชื่อ Nick Bollettieri Tennis Academy ในเบื้องต้นก่อนที่ IMG จะเข้ามาขอร่วมลงทุนและพัฒนาเป็นอะคาเดมี่ที่หลากหลายขึ้นใน 10 ปีให้หลัง โดยในปีที่ IMG เข้ามาร่วมมือด้วยนั้น มีนักเรียนหรือไม่ก็นักกีฬาที่ผ่านจากการสอนของนิคเข้ารอบวิมเบิลดันได้ถึง 32 คนในคราวเดียวกัน

แนวคิดของบอลเลตเตียรี่ดูไกลห่างจากการเป็นนักธุรกิจมากนัก เมื่อเคยเผยใจว่าเจตจำนงค์ของเขานั้นเดิมทีมีเพียงการปั้นนักกีฬาให้ประสบความสำเร็จหรือเป็นแชมป์มากกว่าที่จะเป็นเรื่องเงินทอง บรรดารายชื่อผู้เล่นเบอร์ต้นของโลกที่ผ่านการเรียนรู้จากที่นี่ นอกจากอังเดร อากัสซี่ก็มีบอริส เบ็คเกอร์, โมนิก้า เซเลส, จิม คูเรียร์, ทอมมี่ ฮาสส์, มาเรีย ซาราโปว่าและสองพี่น้องเซเรน่ากับวีนัส วิลเลี่ยม นอกจากนี้ยังมีอีกจำนวนมากที่ติดอันดับ 50 คนแรกของโลก

อย่างสามนักเทนนิสหญิง มาเรีย ซาราโปว่ากับสองพี่น้องวิลเลี่ยม เซเรน่ากับวีนัสนั้น บอลเลตเตียรี่แทบจะเริ่มต้นจากขั้นตอนหัดจับไม้แร็กเก็ตด้วยซ้ำไป ซาราโปว่าอยู่กับนิคถึง 9 ปี เช่นเดียวกับสองพี่น้องที่มาตอน 9 กับ 10 ขวบก่อนจะเติบโตไปเป็นนักเล่นอาชีพ เขาอยู่และเห็นการเติบโตของเด็ก ๆ ทั้งสามรวมไปถึงเรื่องราวการฝึกฝนด้วย ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ของพี่น้องวิลเลี่ยมกับนิคยังสวยงาม เมื่อทั้งคู่จะไปเก็บตัวที่อะคาเดมี่เก่าเสมอก่อนเข้าร่วมรายการแกรนด์ สแลม

ปัจจุบันอะคาเดมี่ของนิคในความร่วมมือกับ IMG นั้นกลายเป็นโรงเรียนสร้างนักกีฬา รวมไปถึงเป็นโรงเรียนปูพื้นฐานก่อนเข้าต่อมหาวิทยาลัยทั่วอเมริกาในหลายชนิดกีฬา แต่เขายังคงดูแลในส่วนของการสร้างนักเทนนิสอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่มันขนาดไปมากจนปัจจุบันมีฮาร์ด คอร์ท กลางแจ้ง 35 คอร์ท ในร่ม 5 คอร์ท แล้วก็มีคอร์ทหญ้ากับคอร์ทดินอีก 16 คอร์ท นับเป็นอะคาเดมี่ด้านเทนนิสที่ใหญ่อันดับแรก ๆ ของโลกแล้ว

นิคถูกจับเอาเรื่องราวของเขามาทำเป็นหนังสารคดีชื่อ Love Means Zero และมีตำราเกี่ยวกับการฝึกฝนเทนนิสที่รวบรวมทุกอย่าง ซึ่งภายหลังถูกเอามาทำเป็นดีวีดีจำหน่ายได้อย่างมากมาย เพราะผลงานของลูกศิษย์ที่การันตีการสอนของเขาด้วยตำแหน่งแชมป์รายการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นในแต่ละปี

จากความตั้งใจเพียงแค่อย่างจะสร้างนักเทนนิสที่ก้าวไปถึงระดับบนสุด อะคาเดมี่ของนิค บอลเลตเตียรี่เป็นเหมือนผู้นำของโลกเทนนิส ผู้นำในการสร้างและวางสะพานเชื่อมวันนี้สู่ความสำเร็จที่อยู่ปลายทางของเหล่านักเทนนิสรุ่นเยาว์ ซึ่งตอนนี้บางคนอาจจะกำลังเรียนรู้วิธีการเล่นเทนนิสเบื้องต้นอยู่ก็เป็นได้