เปลี่ยนแค่ไหน วงการมวยไทย หลังวิกฤตโควิด

ถ้าจะให้พูดถึงกีฬาที่จัดว่าเป็นสัญลักษณ์ของไทยเลย ก็คงมีอยู่ไม่กี่ประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือ “มวยไทย” ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ได้มีดีแค่ตีรันฟันแทงไปเรื่อยเปื่อย มันต้องชิงไหวชิงพริบ พร้อมกับมีทักษะวิชาประดับตัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เดิมทีกีฬามวยนั้นเป็นเพียงกีฬาพื้นฐาน ที่ทุกคนต้องเรียนรู้ไว้ป้องกันตัว ต่อมาจึงพัฒนาต่อยอดเป็นกีฬาที่มีกฎกติกาจริงจัง แถมก้าวไกลไปสู่สังคมโลกอีกด้วย เห็นได้ชัดจากการที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ หลายคนลงทุนมาอยู่เมืองไทยเพื่อเรียนมวยกันเลยก็มี และมีนักมวยบ้านเรา เช่น บัวขาว บัญชาเมฆ ที่ดังมากในต่างประเทศ และเป็นนักมวยที่ได้แชมป์มาแล้วหลายเวที แต่อย่างที่เรารู้กันจากสื่อต่าง ๆ ว่าในช่วงต้นของภาวะวิกฤติโควิดนี้ กีฬามวยไทยก็มีประเด็นร้อนระอุกับเขาด้วยเหมือนกัน ด้วยความใกล้ชิดของนักมวยเองและความใกล้ชิดกันในส่วนของผู้เข้าชมการแข่งขันสด เกิดเป็นการแพร่ระบาดที่สร้างความเสียหายพอสมควร และเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้สูงมาก และยิ่งพอมีเหตุการณ์ติดเชื้อเกิดขึ้นจริง จึงทำให้วงการมวยเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยไม่มีใครรู้ว่าการสถานการณ์จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกหรือไม่ และวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร ในตอนนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ตามปกติ เนื่องจากการแพร่เชื่อโควิดนั้นเกิดขึ้นผ่านสารคัดหลั่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตา เหงื่อ เลือด หรือแม้แต่ไอน้ำในลมหายใจ กีฬามวยที่เรียกว่าสัมผัสตัวกันใกล้ชิด แล้วก็ยังมีสารคัดหลั่งออกมาตลอดเวลา จึงกลายเป็นกีฬาต้องห้าม ที่แม้จะกันส่วนของผู้เข้าชมออกไปแล้ว นักมวยเองก็ยังไม่สามารถแข่งขันได้เลย ข้อดีก็คือเรื่องความปลอดภัย ถือเป็นมาตรการที่ทุกคนในสังคมต้องพร้อมใจเสียสละและร่วมมือกัน แต่ข้อเสียก็ไม่น้อย หลังจากนี้คนที่เป็นเสาหลักในวงการมวยคงต้องหาทางเยียวยากันต่อไป ที่สำคัญอาจจะต้องเพิ่มมาตรการที่มากขึ้นเพื่อให้วงการมวยมีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง เมื่อไม่มีการแข่งขัน นักมวยหลายคนที่ห่างหายจากเวทีไป ก็ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว แม้จะมีเก็บออมสำรองไว้ ใครจะบอกได้ว่ามันจะใช้จ่ายได้ถึงเมื่อไร ยิ่งไปกว่านั้นคือเรื่องร่างกาย พอไม่ได้แข่ง ก็พาลไม่ได้ฟิตซ้อมร่างกายไปด้วย

รู้ไหมทำไมนักกีฬาต้องมีวินัย มากกว่าเรื่องอื่น ๆ

อันที่จริงไม่ได้มีวงการไหนต้องการวินัยมากกว่าวงการอื่น ๆ หรอก ในเมื่อสุดท้ายแล้วคนที่มีวินัยสูงมาก จะทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้ดีกว่าคนที่ไม่ค่อยมีวินัยอยู่แล้ว แต่ที่ต้องยกเรื่องของนักกีฬาขึ้นมาก็เพราะว่า ความมีวินัยของนักกีฬานั้นมีผลต่อสภาพร่างกาย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการประกอบอาชีพของพวกเขาด้วย มันเป็นผลกระทบที่เห็นได้ชัดกว่าการขาดวินัยในสายอาชีพอื่น อย่างเช่น ถ้าเป็นครูแล้วขาดวินัย ก็อาจจะพอถูไถหรือหาตัวช่วยอื่น ๆ มาชดเชยได้ แต่พอนักกีฬาขาดวินัยเอง อะไรก็ช่วยไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาประเภทไหน ความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย การเคลื่อนไหวและมัดกล้ามเนื้อ ถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจดูแล หากขาดการบริหารร่างกายไปสักอาทิตย์ ก็อาจจะวิ่งหรือใช้อุปกรณ์กีฬาได้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ลองมาดูไปพร้อมกันว่าเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้นักกีฬาต้องอยู่คู่กับความมีวินัยเสมอ กีฬาเป็นเรื่องของทักษะและการฝึกซ้อม แค่เรียนรู้ให้เข้าใจว่ากติกาการเล่นเป็นอย่างไรนั้นไม่พอ นักกีฬาต้องผ่านการฝึกฝนทุกทักษะพื้นฐาน พร้อมกับต่อยอดให้ฝีมือดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้เลื่อนชั้น สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มองดูหลายๆ ฝ่าย ทั้งแฟนๆ Fun88 และสื่อมวลชน ทีนี้พอขึ้นชื่อว่าเป็น “ทักษะ” หากไม่ได้ใช้อย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายมันจะด้อยประสิทธิภาพไป ทักษะดีแค่ไหนก็ไร้ค่าถ้าร่างกายไม่พร้อม คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะรู้ดีว่า พอเราหยุดไปสักพัก ร่างกายจะไม่ฟิตเหมือนเดิม ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ทั้งหมด ต้องสร้างกล้ามเนื้อ สร้างแรงบันดาลใจกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อาจจะนาน เพราะนักกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายอยู่ตลอดจึงไม่สามารถพักได้นาน อย่างนักมวย ถ้าห่างหายจากเวทีไปนาน ไม่ได้แข่ง แล้วยังไม่ได้ฝึกซ้อมร่างกาย สุดท้ายอาจดึงกลับมาไม่ไหว ต้องแขวนนวมไปเลยก็มี การเล่นกีฬาไม่ใช่เรื่องของเราคนเดียว ต่อให้เป็นการเล่นกีฬาประเภทเดี่ยว ก็ยังไม่ใช่เรื่องของตัวเราคนเดียวอยู่ดี