ไม่ใช่แค่ทักษะการเล่นกีฬาเพียงอย่างเดียว ที่จะทำให้เราพัฒนาฝีมือไปสู่ระดับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้ เรื่องของอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน อย่างเช่นกีฬาเทนนิส หากเลือกใช้ไม้ที่มีคุณสมบัติเหมาะกับผู้เล่นจริง ๆ ก็จะส่งเสริมให้สามารถควบคุมทิศทางในการตีลูกเทนนิสได้แม่นยำมากขึ้น แล้วก็ประยุกต์ใช้ท่าที่ซับซ้อนกว่าปกติได้ด้วย ในส่วนของมืออาชีพที่คุ้นชินกับสนามดีอยู่แล้ว คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการได้ไม่นาน อาจจะมีข้อข้องใจอยู่บ้าง ว่าเราจะต้องเลือกไม้เทนนิสยังไง ราคาเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะกับสไตล์การเล่นของเราจริง ๆ ครั้งนี้เรามีแนวทางมาฝากกัน

น้ำหนักของไม้คือสิ่งแรกที่ต้องดู

“ยิ่งเบามากเท่าไรก็ยิ่งดี” วลีนี้ถือว่าถูกอยู่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น เพราะไม้ที่เบาที่สุด อาจไม่ดีที่สุดเสมอไป เบาในที่นี้จึงหมายถึง ไม้ที่พอมีน้ำหนักอยู่บ้าง แต่เบาพอที่เราจะควบคุมและใช้งานได้โดยไม่รู้สึกเมื่อย เมื่อต้องตีเทนนิสเป็นเวลานาน ครั้นจะใช้ไม้ที่เบามาก ๆ ไปเลย เราก็ต้องออกแรงตีมากกว่าปกติเพื่อให้ลูกไปได้ไกลและแรง กลายเป็นว่าเสียพลังงานโดยใช่เหตุไปอีก หรือบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมทิศทางของลูกได้ดี นักเทนนิสมืออาชีพหลายคน จึงนิยมที่จะมีไม้ประจำตัวไว้หลาย ๆ เบอร์ เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

วัสดุแต่ละชนิดก็มีดีแตกต่างกัน

โดยปกติแล้วไม้เทนนิสจะผลิตจากวัสดุ 3 กลุ่ม คือ แกรไฟต์ แกรไฟต์ผสม และอลูมินั่ม ซึ่งถ้าวัดเอาที่น้ำหนักเป็นหลัก ไม้จากแกรไฟต์จะเบาที่สุด ส่วนแกรไฟต์ผสมกับอลูมินั่มจะสูสีกัน แล้วแต่รุ่นที่เลือกใช้ แต่ถ้ามาดูเรื่องของความทนทาน งานไม้เทนนิสที่ทำจากวัสดุอลูมินั่มจะทนที่สุด ชนิดที่ว่าเอาไม้กระแทกกับพื้นก็ยังไม่เสียหาย มือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นก็นิยมใช้ตัวนี้ เพราะทนดี ราคาไม่แพง ขณะเดียวกันมืออาชีพกลับไม่ใช้ เพราะความยืดหยุ่นของไม้ใช้ไม่ได้ จะเลือกแบบไหนจึงต้องอยู่ที่ว่าเราซื้อไม้มาเล่นในลักษณะไหนมากกว่า เลือกไปตามความถนัดของเรา เอาง่าย ๆ ว่าหากเป็นมือใหม่อาจจะเลือกไม้แบบธรรมดาไปก่อนก็ได้

อย่าลืมวัดขนาดของ GRIP ที่เหมาะสมด้วย

ต่อให้ไม้เทนนิสที่เลือกจะหรูหราราคาแพงแค่ไหน แต่ถ้าขนาดของ GRIP หรือขนาดของด้ามจับมันไม่พอดีมือ ก็ถือว่าไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเมื่อต้องตีลูกจากระยะต่าง ๆ หากด้ามจับไม่พอดีมือ ก็เสี่ยงที่ไม้จะหลุด หรือเราอาจจะเสียการทรงตัว วิธีการวัดแบบง่าย ๆ คือ ลองกำมือรอบด้ามจับ ถ้านิ้วโอบรอบแล้วชิดกันทั้งหมดก็คือเล็กเกินไป ควรมีช่องว่าง ๆ ไว้ประมาณ 1 เซนติเมตรกำลังดี หรือถ้าหาดูจนทั่วแล้วยังไม่เจอไม้ที่มีขนาด GRIP ที่พอดีกับมือของเราจริง ๆ ให้ใช้เทปพันด้ามที่มีความหนาเข้ามาช่วยเป็นอันว่าใช้ได้