สนามเทนนิสถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะส่งผลให้นักเทนนิสสร้างผลงานที่ดีหรือไม่ดีได้ ปัจจุบันการแข่งขันของวงการเทนนิสโลกถือว่าได้จัดวางลำดับการแข่งขันให้สอดคล้องกับรายการใหญ่ของทั้งฝ่ายชายและหญิง

รอบการแข่งขันของ ATP และ WTA ในแต่ละปีจะเริ่มต้นด้วยการไปชิงแชมป์แกรนด์ สแลมแรกที่ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นในเดือนมกราคม ก่อนที่จะมีรายการแข่งขันบนฮาร์ดคอร์ทต่อเนื่องมาถึงเดือนมีนาคมและจบลงด้วยรายการระดับรองจากแกรนด์ สแลมคือ ATP Masters และ WTA Premiers ฝ่ายละสองรายการคืออินเดียน เวลล์สและไมอามี่ โอเพ่น ที่ฟลอริด้า

ทันทีที่รายการที่ฟลอริดาจบ การแข่งขันจะเริ่มเข้าสู่เดือนเมษายนกับการต่อสู้บนสนามดินสีแดงซึ่งเรียกว่าเคลย์คอร์ทหรือคอร์ทดินนั่นเอง

แม้จะเรียกว่าคอร์ทดิน แต่ทุกวันนี้พื้นสนามของเคลย์คอร์ทจะเป็นอิฐบดละเอียดหรือหินกรวดบดละเอียด โดยจะต้องมีคุณสมบัติไม่อมน้ำหรือซับน้ำ และเป็นสนามที่มีการกระดอนแตกต่างจากสนามชนิดอื่นมากที่สุดเพราะนอกจากกระดอนช้าแล้วยังกระดอนสูง เมื่อเป็นแบบนี้การแข่งขันรายการใหญ่สุดของคอร์ทดินที่โรล็องต์ การ์รอสหรือศึกเฟร้นช์ โอเพ่นจึงเป็นเวทีที่เหมาะสมในการหาเจ้าแห่งสนามดิน

ก่อนจะไปถึงโรล็องต์ การ์รอสในปลายเดือนพฤษภาคม จะมีรายการแข่งขันบนคอร์ทดินต่อเนื่องไปทุกสัปดาห์จนกว่าจะถึงแกรนด์ สแลม ซึ่งระหว่างทางก็มีรายการเก็บคะแนนสำคัญบนคอร์ทดิน ทั้งที่มาดริดและโรมต่อคิวให้ทุกคนพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถแสดงฝีมือได้ดีแค่ไหน เมื่อต้องเล่นบนสนามที่ลูกวิ่งช้า และต้องอาศัยทักษะสไลด์เท้าเพื่อเล่นลูกเพราะไม่สามารถหยุดได้แบบมั่นคงเหมือนสนามหญ้าหรือปูน

ที่ผ่านมาคอร์ทดินถือเป็นของชอบสำหรับนักเทนนิสบางคนและเป็นของสแลงสำหรับคนอื่นๆ ราฟาเอล นาดาลกับชูสติน เอแน็งต์ที่ต่างคว้าแกรนด์ สแลมที่โรล็องต์ การ์รอสมาได้หลายสมัยถูกยกขึ้นมาเป็นแถวหน้าของพวกชอบคอร์ทดิน โดยเฉพาะนาดาลที่เป็นเจ้าของสถิติชนะต่อเนื่องบนคอร์ทดิน 81 เกม และครองแชมป์เฟร้นช์ โอเพ่นไป 11 ครั้ง เขาคือเทพเจ้าแห่งสนามดินโดยแท้

หลายครั้งที่คะแนนสะสมของนักเทนนิสที่ถนัดเคลย์คอร์ทพุ่งพรวดขึ้นมา นั้นเพราะพวกเขาสามารถการันตีแต้มสะสมที่จะได้จากการลงเล่นในสนามที่ตัวเองถนัดเป็นพิเศษ ผิดกับสนามอื่นที่สู้กันค่อนข้างสูสีกว่า และเพื่อลดช่องว่างตรงนั้นนักเทนนิสที่ไม่ถนัดก็ต้องพยายามเล่นบนคอร์ทดินให้ดีขึ้นและแน่นอนขึ้น ที่สำคัญคือเรื่องของจิตใจที่ต้องเล่นเกมยืดเยื้อให้ได้

สองเดือนระหว่างเมษายนไปจนสิ้นพฤษภาคมคือเวลาที่ใช้ค้นหาราชาและราชินีคอร์ทดิน เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่แฟนเทนนิสจะได้สัมผัส และมันคือสีสันการแข่งขันช่วงที่สองของปฏิทินเทนนิสประจำปี ก่อนจะปิดฉากที่โรล็องต์ การ์รอสและเปลี่ยนไปสู่สนามหญ้าที่มีปลายทางเป็นวิมเบิลดันต่อไป