นักเทนนิสรุ่นเยาว์พรสวรรค์สูงมากมายในทุกวันนี้ บางคนอาจจะก้าวขึ้นไปจนถึงจุดสุดยอดในอนาคต แต่เส้นทางนั้นไม่ง่าย และมีองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการก้าวขึ้นมาอย่างโดดเด่นและมั่นคง

ร็อบ เฮมิ่งเวย์ โค้ชระดับเยาวชนใช้เวลาเรียนรู้เรื่องนี้อยู่หลายปี โดยเฉพาะการเรียนรู้ว่านักเทนนิสรายหนึ่งๆ จะก้าวขึ้นมาเป็นระดับท็อปได้นั้นมีสิ่งใดเป็นเรื่องจำเป็นบ้าง และมันก็มี 3 สิ่งแวดล้อมด้วยกันคือ อะคาเดมี่สำหรับการสร้างพื้นฐาน, โครงการสนับสนุนของประเทศตัวเองและโค้ชส่วนตัว

ในทุกวันนี้ผู้เล่นเก่งๆ ต่างมาจากอะคาเดมี่ที่โดดเด่น อย่างน้อยหนึ่งปีขึ้นไปสำหรับการได้รับการปรับจูนพื้นฐานและการโค้ชโดยผู้ฝึกสอนมีชื่อเสียง นักเทนนิสระดับท็อปเท็นซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในปัจจุบันอย่างโนวัค โยโควิชเองก็ทิ้งบ้านเกิดมาเรียนช่วงต้นที่ปิลิช อะคาเดมี่ในมิวนิค ประเทศเยอรมัน หรืออย่างมาริน ซิลิคก็เลือกบ็อบ แบร็ต สคูลในซาน รีโม่เป็นที่ตั้งไข่

การเรียนในอะคาเดมี่ดังนั้นต้องแลกมาด้วยค่าเรียนไม่ใช่น้อย หนึ่งปีในการเรียนรู้เทนนิส เรียนหนังสือและที่พักอาจจะกินเงินถึง 40,000 ยูโรหรือมากกว่า 1.42 ล้านบาท อย่างราฟาเอล นาดาลที่เข้าเรียนในมัวราโตกลู เทนนิส อะคาเดมี่ชื่อดังของฝรั่งเศสนั้นต้องจ่ายสูงถึง 65,000 ยูโรมาแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าอะคาเดมี่มีทุกอย่างที่ว่าที่นักเทนนิสระดับท็อปในอนาคตต้องการ ผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพ สโมสรเทนนิส วิธีการสอนเพื่อกลายเป็นนักเทนนิสที่เก่งฉกาจ

หลังจากเข้าเรียนในอะคาเดมี่จนได้ทักษะการเล่นที่ดีแล้ว การจะวัดว่านักเทนนิสเยาวชนรายนั้นพัฒนาไปได้มากแค่ไหนก็หนีไม่พ้นการลงแข่งขัน เหล่าชาติชั้นนำของโลกมีโครงการสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพของนักกีฬา โดยเฉพาะการซัพพอร์ตเรื่องการแข่งขันและปัจจัยจำเป็น การออกไปเผชิญสนามแข่งขันที่ไกลออกไปจากประเทศตัวเองคือหนทางสู่ความก้าวหน้า

ผู้เล่นอย่างไคล์ เอ็ดมุนด์ มือระดับท็อปของอังกฤษได้รับการสนับสนุนจากสมาคมลอนเทนนิสของอังกฤษตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ค่าใช้จ่ายของครอบครัวในการแข่งขันและพัฒนาฝีมือถูกกว่าที่ควรจะเป็นเพราะได้รับการเอาใจใส่ในเรื่องนี้ ตรงกันข้ามกับซิโมน่า ฮาเล็บ แชมป์เฟร้น โอเพ่นหญิงชาวโรมาเนียที่แทบจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมเทนนิสบ้านเกิดเลย อย่างดีที่สุดเธอได้เพียงแรงสนับสนุนจากนักธุรกิจท้องถิ่นที่เป็นเทนนิส อะคาเดมี่ในบ้านเกิดของเธอเท่านั้น

อันดับสุดท้ายของการส่งนักเทนนิสเยาวชนให้กลายเป็นดาวเด่นในอนาคตคือโค้ชในบ้านหรือโค้ชส่วนตัว ราฟาเอล นาดาลเป็นคนที่น่าอิจฉามากในเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่บ้านเกิดในมายอร์ก้า นาดาลได้รับการฟูมฟักหลายปีแรกจากลุงโทนี่จนถึงคาลอส โมย่า

สมาคมเทนนิสสเปนมองเห็นพรสวรรค์ของนาดาลและอยากให้เขาเข้าศูนย์ฝึกที่บาร์เซโลน่า แต่คนในบ้านเชื่อว่าตอนนี้นาดาลเองก็อยู่ในบ้านอันเหมาะสมแล้ว และทุกคนที่มายอร์ก้าก็ดีพอที่จะผลักดันเขาเป็นแชมป์ในรุ่นอายุตัวเองได้ แม้จะไม่ได้เข้าสถาบันอันดับหนึ่งของประเทศก็ตาม ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ตามความเห็นของร็อบ เฮมิ่งเวย์ เป็นเครื่องชี้ทางเบื้องต้นเท่านั้น แต่มันก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะผู้เล่นเยาวชนในปัจจุบันอย่างชุน เซ็ง, เคย์อิ นิชิโคริหรือนาโอมิ โอซากะ ต่างก็ใช้เส้นทางและสิ่งแวดล้อมเดียวกันนี้ในการส่งตัวเองขึ้นมาเป็นนักเทนนิสชั้นยอดได้